top of page

ผีวิญญาณมีอยู่จริง ?

  • Writer: Lucky Foryou
    Lucky Foryou
  • May 31, 2019
  • 2 min read

Updated: Jun 6, 2019


ผีวิญญาณมีอยู่จริง ?

เมื่อมีอยู่จริง ก็ต้องพิสูจน์ สัมผัสได้ คำนี้คือประโยคสุดฮิตของนักวิทยาศาสตร์ ในการค้นหาคำตอบของทุกสรรพสิ่ง ดังนั้นเพื่อให้สิ้นสงสัยในชีวิตหลังความตาย ว่า ดับสูญ เกิดเป็นผี หรือ เป็นพลังงานอะไร มีหลักใดมาอธิบายในสิ่งเหนือสมมุติบัญญัตินี้ได้บ้าง . . . เรามาพิสูจน์กันดูครับ


ทุกสรรพสิ่งทั้งที่มี ชีวิต และไม่มีชีวิต ล้วนเป็นพลังงานรูปแบบนึง ที่มีความถี่การสั่นสะเทือนอย่างมีรูปแบบเฉพาะตน ที่ทำให้เกิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเหนี่ยวนำดึงดูดอณูละอองธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ ให้เข้ามารวมเป็นสิ่งเหล่านั้น อย่างเป็นระเบียบแบบแผน ดังจะเห็นได้จากการถ่ายภาพด้วยเทคนิค Kirlian ที่นำใบไม้มาตัดบางส่วนออก แต่ผลลัพย์จากการทดสอบ จะเห็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเหนี่ยวนำเป็นโครงข่ายพลังงาน รูปแบบของใบไม้เต็มใบได้อย่างเหลือเชื่อ !!! . . . โดยสิ่งนี้วิทยาศาสตร์ให้คำตอบคือ ความจำของเซลล์ที่ยังคงไม่ลืม แต่ทางจิตวิญญาณ เรียกว่า สัญญา



อธิบายตามความเป็นจริง ส่วนที่ขาดหายไปของใบไม้ที่ถูกตัดทิ้ง แต่ยังปรากฏโครงข่ายไฟฟ้าที่ยังคงสภาวะรูปทรงของใบไม้ได้ สิ่งนี้แหละครับคือ คำอธิบายว่า ผี วิญญาณ นั้น แม้มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่ในมิติของพลังงาน ยังมีรูปแบบที่คงไว้ซึ่งพลังงาน ไม่ได้สูญหายไปไหนเลย . . .

Phantom Leaf



เมื่อผี หรือวิญญาณ คือพลังงาน และพลังงานก็มองไม่เห็นแต่ก็มีอยู่จริง ดังจะเห็นได้จากการทดลองต่างๆดังนี้


1. พลังงาน หรือคลื่นความถี่ มีรูปแบบการสั่นสะเทือนเฉพาะตัว สามารถเปลี่ยนแบบของจำนวนเม็ดทรายนับหมื่นนับแสนเม็ด ให้แปรรูปตามความถี่ที่กำหนด



2. คลื่นความถี่ สามารถเรียงอณูของเม็ดโฟมที่ไร้รูปแบบในการเรียง ให้ตั้งขึ้นรูปได้อย่างมีระเบียบและเคลื่อนไหวได้อย่างพร้อมเพรียง


3. พลังงาน เกิดสนามพลังแม่เหล็กรวบรวมไอน้ำทำให้เกิดอุณภูมิ และ แสงสีต่างๆตามคุณลักษณะของต้นกำเนิดพลังงานที่สั่นสะเทือนคลื่นความถี่ออกมา โดยจะเห็นได้จากการถ่ายภาพด้วยกล้องออร่า ที่สะท้อนไอน้ำรอบวัตถุที่ถ่ายว่ามีคุณสมบัติพลังงานเป็นเช่นไร

ออร่าพลังแห่่งชีวิต


พลังงานออร่าจาก มนุษย์ และ วิญญาณ


จากตัวอย่างคร่าวๆ เพื่อให้รู้จักกับพลังงานว่ามีตัวตน และรูปแบบในการแสดงผลอย่างไร มาต่อกันที่ ผี และ วิญญาณ ที่ไม่มีกายสังขารให้ยึดอาศัย แต่จิตที่ยังคงสภาวะพลังงานนั้น เราจะพิสูจน์สิ่งนี้ว่ามีอยู่จริงด้วยหลักการที่ง่ายต่อความเข้าใจดังนี้


หลังจากมนุษย์สิ้นชีวิตลง จิตวิญญาณไม่มีกายสังขารให้ยึดอาศัย แต่จิตยังคงมีสัญญาเป็นตัวยึด ดังนั้นการที่เราพบเห็นวิญญาณ วนเวียนอยู่ในสถานการณ์เดิมหลังความตาย นั่นก็เพราะจิตที่ไม่ได้ถูกฝึกให้เกิดปัญญา นั้นก็เหมือนผีที่โง่ ไม่รู้ว่าตายแล้วไปไหน จึงวนเวียนอยู่กับสัญญาของจิตสุดท้ายที่อยู่ในอบาย* ซ้ำๆอยู่อย่างนั้น (อบาย หมายถึง ภูมิ หรือดินแดนที่เกิดอันไม่มีความเจริญเป็นสถานที่เกิดของสัตว์ที่ไม่มีโอกาสทำบุญกุศล) ต่างจากจิตที่ถูกฝึกให้ รู้เท่าทัน* คืออยู่ในปัจจุบันขณะจากลมหายใจบ่อยๆ ตื่นรู้อยู่ทุกขณะจิต จิตจึงมีสิ่งยึดเหนี่ยว คือธรรม เข้าสู่สมดุลคือความสมบูรณ์แบบแห่งธรรมชาติ หลุดพ้นจากสิ่งเหนี่ยวรั้งทางอบายให้ต้องกลับมาเกิด ที่เป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ไม่จบไม่สิ้น . . . ซึ่งพูดสรุปง่ายๆก็คือ ผีมีปัญญานั่นเอง จึงเป็นอิสระทั้งก่อน และหลังความตาย เป็นเทพเทวดา เป็นพรหมที่ไม่มีรูป ดังนั้นเราปล่อยผีฉลาดไปก่อนเพราะเค้าไม่มีสัญญาที่เป็นอกุศลจิตคอยผูกมัดเหมือนผีที่ขาดปัญญา ที่ก่อนตายเต็มไปด้วยอัตตาตัวตน พอกพูนแต่กิเลสและอกุศลจิต โดยผลลัพย์ก็คืออบายภูมิที่ตัวเองสร้างขึ้น และจิตสุดท้ายก็ไปไหนไม่ได้ต้องติดกับสิ่งต่างๆที่คิดว่าเป็นของตัวเองนั่นแหละ ตัวกู ของกู ที่กู บ้านกู ลูกกู เมียกู สมบัติกู ความเชื่อกู หรือแม้แต่ชีวิตกู จึงเป็นที่มาของ ผี วิญญาณ สัมพเวสี เจ้าที่เจ้าทาง ที่เราคุ้นเคยนั่นเอง . . .


ดังนั้นเมื่อรู้แล้วว่า ผีเหล่านี้มีพลังงานจากสัญญาที่มีลักษณะเป็นกลุ่มสนามแม่เหล็ก ที่มีการเหนี่ยวนำไอน้ำให้เข้าไปรวมตัวกัน และเกิดความถี่จากแสงสีต่างๆจากคุณสมบัติเฉพาะตัวของพลังงานนั้นๆ ที่สามารถหักเหแสงได้ จึงมีอุณหภูมิเฉพาะด้วยเช่นกัน การจะเลือกอุปกรณ์มาใช้ดังนี้


แสงและสีต่างๆที่มนุษย์สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า


Infrared optics(Depth sensor) เป็นอุปกรณ์ที่สามารถเซนเซอร์ระดับความตื้นลึกของวัตถุ ซึ่งประกอบไปด้วย Infrared projector ทำหน้าที่ฉายแสงอินฟราเรดซึ่งมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นออกมาเป็นแพทเทิร์นจุด และมี Infrared camera ที่ทำหน้าที่รับแสงอินฟราเรดที่ถูกฉายออกไปเพื่อใช้ในการสร้างภาพที่บอกความลึกตื้นของวัตถุ (Depth map) โดยเริ่มต้นจากการให้ Infrared projector ฉายแสงอินฟราเฟรดในลักษณะเป็นแพทเทิร์นจุดดังภาพ


Kinect เซนเซอร์ระบบ IR Depth ของ Microsoft


แสง infrared ที่ตกกระทบวัตถุ


แสง infrared ที่ตกกระทบวัตถุ


จากนั้น Infrared camera จะรับระดับความสว่างของแสงที่ตกกระทบบนวัตถุ โดยวัตถุที่อยู่ใกล้แสงจะมีความสว่างมากและวัตถุที่อยู่ไกลจะมีแสงสว่างน้อยกว่า จากนั้นจะนำข้อมูลที่ได้ไปประมวลผลด้วยซอฟต์แวร์จะได้ระดับความลึกตื้นออกมาดังภาพด้านล่าง โดยวัตถุที่อยู่ใกล้กับตัวเซนเซอร์จะมีสีอ่อนและวัตถุที่อยู่ไกลจะมีสีเข้มไล่ระดับกันไป


แยกระดับของวัตถุออกจากสิ่งแวดล้อมพื้นหลังด้วยค่าแสงที่ตกกระทบวัตถุในระดับต่างๆได้อย่างแม่นยำ


เมื่อ Kinect รู้ระดับความตื้นลึกแล้วก็จะสามารถแยก มนุษย์ออกจากสภาพแวดล้อมได้ นอกจากนั้น Microsoft Kinect Sensor ยังมีระบบ Skeletal Tracking ที่ใช้ติดตามโครงกระดูกของผู้ใช้งาน ซึ่งภาพที่แสดงจะเป็นภาพของโครงกระดูกมนุษย์ที่แทนด้วยข้อต่อ 20 จุดสำคัญตามร่างกาย หรือ มนุษย์ก้างปลาตามคลิปที่แนบไว้ และเมื่อการแสดงผลที่ไม่มีมนุษย์อยู่ในจอภาพ ปรากฏเพียงโครงมนุษย์ก้างปลา ที่ขยับเคลื่อนไหวได้ สิ่งนี้เองที่เราเรียกกันว่า ผี หรือวิญญาณ ก็เกิดขึ้นจากกลุ่มพลังงานนี้ ทำปฏิกิริยากับแสงอินฟลาเรดที่ตกกระทบ จนคล้ายกับมีวัตถุที่มีรูปทรงคล้ายมนุษย์ยืนอยู่ตรงหน้าเซนเซอร์นั่นเอง

ขั้นตอนการทำงาน และการแสดงผลระบบ IR Depth


Kinect กับการสื่อสารกับวิญญาณ



ส่วนอุปกรณ์ที่ 2 เพื่อใช้ร่วมกันเพื่อความสมจริงมากยิ่งขึ้นก็คือ การใช้กล้อง Infrared thermal หรือกล้องตรวจจับความร้อน ด้วยเหตุผลของพลังงาน ที่สามารถเหนี่ยวนำไอน้ำให้รวมตัวกันได้ ซึ่งน้ำเป็นสิ่งที่มีอุณหภูมิ เราจึงรู้สึกถึงอากาศว่าร้อนหรือเย็น ก็ด้วยการตกกระทบของแสงต่อไอน้ำเหล่านี้จนเกิดอุณหภูมินั่นเอง


Kinect + Thermal


Kinect + Thermal


Thermal (Face of Ghost!!)



อุปกรณ์ที่ 3 Touch Detector การทำงานก็ตามชื่อเลยครับ หากมีสิ่งใดมาสัมผัส เครื่องก็จะร้องเสียงดัง ซึ่งหลักการทำงานก็ดูจากในคลิปเลยครับ การลัดวงจรหากเครื่องสมบูรณ์แบบคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ดังนั้นถ้าเครื่องนี้ดังขึ้นเมื่อไหร่ แล้วไม่ได้มีคนสัมผัสโดนอุปกรณ์ นั่นก็คือผี หรือวิญญาณนั่นเองครับ


Touch Detector ระบบกลไกการทำงานง่ายๆ


Touch Detector ทดสอบกับวิญญาณ


Touch Detector + Kinect


อุปกรณ์ที่ 4 Spirit Box เมื่อรูป และสัมผัสมีแล้ว เพื่อให้สมบูรณ์แบบ ก็ต้องมีเสียงด้วย เหตุเพราะบางพลังงานนั้นสามารถสื่อสารได้หากมีความถี่ที่ตรงกับอุปกรณ์ที่ใช้จูนคลื่นความถี่เสียง (ชิ้นนี้ไม่เสถียร แต่ก็ถือว่านำมาเป็นองค์ประกอบได้ เผื่อเขาอยากสื่อสารตามกำลังบุญ !!)


Spiritbox (Eng)


Spiritbox (Thai)



ดังนั้นเมื่อนำระบบเซนเซอร์ระดับ(Kinect) เซนเซอร์ความร้อน(Thermal) เซนเซอร์สัมผัส(Touch detector) อีกทั้งสามารถแสดงผลด้วยระบบที่ตรวจจับและแสดงผลก็ต่อเมื่อสิ่งที่ตรวจจับต้องเป็นลักษณะโครงสร้างของมนุษย์เท่านั้น จบด้วยเครื่องจูนความถี่เสียงเพื่อสื่อสาร (Spirit box) . . . โลกแห่งวิญญาณก็สามารถเชื่อมต่อกับโลกแห่งความจริงได้ ด้วยอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์พลังงานด้วยเหตุผลดังกล่าว

ทั้งหมดทั้งปวงไม่ใช่แค่ทฤษฏีแต่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวคุณเอง และเมื่อโลกหลังความตายมีอยู่จริง สิ่งที่จะติดตัวไปได้คงมีเพียงสิ่งเดียวคือ บุญ และ กรรม ดังนั้นเมื่อเกิดปัญญาด้วยเห็นเป็นไปตามจริงว่า ทุกสรรพสิ่งไม่เที่ยง มี เกิด และ ดับ เป็นของธรรมดา และต้องวนเวียนเป็นวัฏจักรอยู่แบบนี้เพราะตัวหลง อันมีอัตตาและกิเลสบดบังความจริงอยู่ เมื่อรู้แบบนี้แล้ว ทุกลมหายใจที่มีอยู่ ก็อย่าปล่อยให้เสียเวลาเปล่าเลยครับ หลังเสร็จกิจทางโลกในแต่ละวันแล้ว ก็แบ่งเวลาให้กับจิตวิญญาณได้สั่งสมบุญบารมีอันเป็นทรัพย์ที่จะติดตัวไปได้ทุกภพชาติเทอญ . . .

===== Thank you for watching =====


พลังงานกับความเชื่อ


rice experiment


rice experiment


ท้ายสุดนี้ หากผมจะจำลอง ข้าวคือสิ่งมีชีวิต ที่เป็นตัวแทนของตัวท่านเอง คนรอบตอบ หรือแม้แต่คนที่คุณรัก ส่วนคำพูด Love (ความเมตตา ความรักอันบริสุทธิ์ และ Hate (เกลียดชัง อาฆาติ พยาบาท) คือพลังงานของบุญ (+) และ บาป (-) ที่สร้างขึ้นมาจากตัวตน . . . ผลลัพย์ที่ได้คือ พลังงานบวกทำให้ข้าวยังคงสภาวะปกติได้ยาวนาน เปรียบเหมือนความสุขความสมดุลความมั่นคง . . . ส่วนพลังงานงานลบ ข้าวเกิดการเน่าเสียรุนแรง เปรียบเหมือนความทุกข์โรคภัยไข้เจ็บเข้ามารุมเร้า ดังนั้นเมื่อ ทำดีย่อมได้ดี ทำชั่วก็ย่อมได้ชั่วไม่มีดีปนแน่นอน เมื่อบุญคือสิ่งที่สงบร่มเย็นนำพาความสุขมาให้ หากพิจารณาแล้วเกิดปัญญาก็ควรเร่งทำความดี เพื่อประโยชน์ส่วนตน และเผื่อแผ่บุญกุศลเหล่านั้นไปยังเหล่าสรรพสัตว์ที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก ให้ได้อานิสงส์ในบุญนั้นเป็นแสงสว่างนำทางสู่ภพภูมิที่เจริญยิ่งๆขึ้นไปเทอญ . . . ^^


กระแสแห่งบุญ สงบร่มเย็น ดับความเร่าร้อน



GDT : Ghost Detector

Line : @lucky4u

Commentaires


Get social with us!
Contact us
Tel​ : 093-2424-954

Line : @lucky4u

​​​

" ทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นหนึ่งไม่มีสอง อยู่ภายใต้ธรรมเดียวกันนี้แล "

  • Facebook Clean Grey
สหธรรม_edited.jpg
bottom of page